มีความหมายดีมากๆ จึงอยากให้อ่านด้วยกันครับ!
เพื่อน ๆ บอกผมว่า
ทำไมมึงดูหน้าตาไม่ค่อยฉลาด แต่เรียนเก่งจังวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้ขยันแล้วก็ตั้งใจเรียน
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมพอมึงมีตังค์ มึงชอบเอาไปทำบุญ แจกเด็ก เลี้ยงพระวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้รู้จักแบ่งปันคนอื่น ถึงเราจะมีตังค์น้อย แต่ก็มีคนอื่นที่เขาลำบากกว่าเรา
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงชอบเล่นกีฬา เล่นเป็นหลายอย่าง แล้วไม่เคยเห็นมึงป่วยนอนโรงพยาบาลเลยวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้กูออกกำลังกาย จะได้แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วยง่าย ๆ เพราะเรามีตังค์น้อย เจ็บ
ป่วยจะลำบาก
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงอารมณ์ดี ไม่เครียด ไม่โกรธใครบ้างเลยหรือไงวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้เป็นคนอารมณ์ดี ทำให้คนที่อยู่ใกล้เรามีความสุข แล้วจะสบายใจกันทุกคน
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงพูดกับคนอื่น ดูสุภาพ อ่อนน้อม ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นลุงแก่ ๆ เป็นเด็กเสริฟอาหาร
หรือแม้แต่ขอทานที่มึงให้เศษตังค์แล้วเขาอวยพรให้มึง ทำไมมึงต้องขอบคุณขอทานวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้พูดดี ๆ กับทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เราพูดดี ๆ กับเขา เขาก็จะได้พูดดี ๆ กับเรา
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมพี่ ๆ น้อง ๆ มึงตั้งหลายคน ทำไมรักใคร่กันดี ไม่เคยทะเลาะกันเลยวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้พี่น้องรักกั นทุกคน เพราะหมากับแมวที่อยู่บ้านเดียวกัน มันยังรักกันได้
ทำไมพี่น้องกัน จะรักกันไม่ได้
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงถึงรักชาติ รักแผ่นดิน รักในหลวง มากมายนักวะ
ผมบอกเพื่อนว่า
แม่กูสอน ให้กูสำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน บุญคุณของพระมหากษัติรย์ ทุกพระองค์
แม่กูสอน ให้กูรู้จักคำว่า จงรักภักดี ตั้งแต่กูยังไม่รู้ความหมาย จนทุกวันนี้ กูรู้แล้วว่า
คำว่า จงรักภักดี นั้น ยิ่งใหญ่เพียงใด
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมแม่มึงถึงสอนอะไรมึงมากมายจังเลยวะ
ผมบอกเพื่อนว่า
ที่กูเป็นกูอยู่จนทุกวันนี้ ก็เพราะ " แม่กูสอน"
แม่กูสอนอะไร กูทำตามแม่กูสอนทุกอย่าง
มีอย่างเดียวที่แม่กูไม่ได้สอน แต่กูทำ แล้วกูทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว
แม่กูไม่ได้สอนให้รักแม่ แต่......กูรักแม่ว่ะ
ใครไม่รัก..................กูรัก
....ผู้ปิดทองหลังพระ คือ ผู้ทำให้องค์พระงามสมบูรณ์.... “…การทำงานด้วยน้ำใจรักต้องหวังผลงานนั้นเป็นสำคัญ แม้จะไม่มีใครรู้ใครเห็น ก็ไม่น่าวิตก เพราะผลสำเร็จนั้นจะเป็นประจักษ์พยานที่มั่นคง ที่พูดเช่นนี้ เหมือนกับ สอนให้ปิดทองหลังพระ การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมากไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่า ไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้…” พระบรมราโชวาท
5/16/2551
...แม่กูสอน...
5/14/2551
ตลกฝรั่งที่คนไทยไม่ตลก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เมื่อครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก
พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ของวิเศษต่าง ๆ พระองค์เริ่มต้นด้วยการสร้างมหาสมุทรทั้ง 7 โดยการวางของวิเศษของพระเจ้า
พระองค์จะต้องวางทั้งของดีและของไม่ดีคู่กันไป เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใดสมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่น
ทรงเอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการา วางไว้ให้อเมริกา
แล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่ากับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย
เอาป่าเมซอนวางไว้ให้บราซิล ทรงเอาไข้ป่าวางไว้ให้ด้วย
เอาขั้วแม่เหล็กโลกวางไว้ในแคนาดา แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้
เอาเทือกเขาหิมาลัยให้ธิเบตกับเนปาล เพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก
แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศและความแห้งแล้งไว้ให้
ทุกประเทศจะให้ของคู่กันแบบนี้ ทั้งหมดจึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน
คราวนี้ พระองค์ทรงลืมประเทศรูปขวานเล็ก ๆทางแหลมอินโดจีน
ทรงสะพายถุงวิเศษ แล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัย แต่ด้วยความที่สูงมาก
จึงเกี่ยวถุงของพระเจ้าขาด ข้าวของดี ๆที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่น ๆ
เช่น ชายหาดสวย ๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์ ศิลปะวัฒนธรรมดี ๆ อาหาร อร่อยที่สุดในโลก ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่ประเทศไทยหมด
ว้า .!.. แย่แล้ว พระเจ้าทรงคิด ประเทศนี้ท่าทางต้องเจริญ
กว่าประเทศอื่น ๆ ทั้งหมดแน่นอน พระเจ้าทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล
แต่ก็สายเสียแล้วพระองค์ทรงเอาภูเขาไฟ กับแผ่นดินไหวให้ญี่ปุ่นไปแล้ว
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ประเทศอื่น ๆ จะมาฟ้องร้องพระองค์ได้ว่าพระองค์ไม่ยุติธรรม
จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอที่จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่าประเทศอื่น ๆ ได้
เพื่อเป็นการป้องกันประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ไม่ให้ล้ำไปกว่าประเทศอื่น ๆ
ว่าแล้ว พระองค์ก็เลยสร้างนักการเมืองไทยขึ้นมา
........................................
5/12/2551
[ ]- วิธีแก้นิสัยขี้หึง -[ ]
1.บอกเขาแต่แรกว่าคุณ
ลองมาครุ่นคิดใคร่ครวญอีกด้านหนึ่งดูบ้าง
ความขี้หึง เป็นเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่หยั่งรากลึกอยู่ในโลกจิตของทุกคน ทว่า มันจะผลิก้านแตกใบพอให้ร่มเงา หรือมันจะงอกรกขึ้นไปเบียดพาดทำเสาไฟฟ้าหัก อันนี้อันนั้น ก็เห็นจะขึ้นอยู่กับการหมั่นคอยดูแลตัดกิ่งของแต่ละคน
สัตว์ร้ายแห่งความหึงหวง บางครั้งก็สามารถเติบใหญ่กลายเป็นอสูรกาย คร่าทำลายได้แม้กระทั่งความสัมพันธ์ที่มันถูกออกแบบมาเพื่อให้ปกป้อง
แล้วนี่ความรักของเขาจะต้องมาจบลงแบบนี้จริงๆ น่ะหรือ?
ว่าดีสู้ใครๆ เขาไมได้ ไม่แน่สมัยเด็กๆ เค้าอาจไม่เคยไดรัความรัจากพ่อแม่อย่างเต็มที่ ทำให้โตขึ้นมา โหยหาความรักเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ ในหัวใจมีที่ซึ่มิอาจเติมเต็ม หวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าตนเองไม่ดีพอ…ที่จะถูกรัก…
5/10/2551
ของสามสิ่งกับความเป็นจริงบนโลก
วันหนึ่งลูกสาวพร่ำบ่นถึงชีวิตอันแสนรำเค็ญให้พ่อฟังว่า . . .
เธอกำลังรู้สึกอับจนปัญญาที่จะจัดการกับชีวิตและปรารถนาที่จะยอมแพ้พ่าย
ด้วยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้และการแข่งขัน
ประหนึ่งว่าเมื่อสางปัญหาหนึ่งเสร็จสิ้น
อีกปัญหาหนึ่งก็ก้าวเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ
ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นพ่อครัวจึงเดินนำเธอเข้าไปในครัว
จัดแจงต้มน้ำในหม้อ 3 ใบด้วยไฟแรงจนน้ำเดือด
เขาใส่แครอทในหม้อใบแรก
วางไข่ลงในหม้อใบที่สอง และตักกาแฟลงไปในหม้อใบสุดท้าย
แล้วปล่อยให้มันต้มไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำอธิบายให้กับลูกสาวเลย
ฝ่ายลูกสาวเริ่มรู้สึกหงุดหงิด และหมดความอดทน
ทั้งยังสงสัยว่าพ่อกำลังทำอะไร 20 นาทีผ่านไป พ่อก็ปิดเตาแก๊ส
ตักแครอทขึ้นมาวางไว้ในชาม นำไข่วางไว้ในชามอีกใบหนึ่ง
และตักกาแฟไว้ในชามสุดท้าย แล้วหันไปถามลูกว่า "ลูกเห็นอะไรบ้าง"
"แครอท ไข่ กาแฟ" เธอตอบ
เขาจึงขอร้องให้เธอสัมผัส แครอท เธอจึงรู้ว่ามันนิ่ม
แล้วเขาก็ให้ลูกสาวตอกไข่ เมื่อเธอแกะเปลือกไข่ออก ก็พบว่าไข่
นั้นได้ต้มจนสุกแล้ว ท้ายที่สุดเธอให้ลูกสาวลองจิบ กาแฟ ดู
เธอยิ้มและลิ้มรสอันหอมกรุ่นนั้น
แล้วก็ถามพ่อ ว่า " นี่หมายความว่าอย่างไรเหรอคะคุณพ่อ?"
ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน นั่นคือ น้ำเดือด
แต่ผลลัพธ์มันกลับแตกต่างกัน จากเดิม แครอท ดูแข็งๆ
และไม่โอนอ่อนผ่อนตาม พอผ่านการต้มมันกลับนิ่มและดูอ่อนปวกเปียก
ไข่...ซึ่งดูบอบบาง มีเพียงเปลือกบางๆ คอยห่อหุ้มของเหลวภายใน
แต่น้ำเดือดทำให้ของเหลวนั้นกลับแข็งขึ้น
ขณะที่กาแฟกลับมีลักษณะเฉพาะตัวตลอดกาล เมื่อมาเจอน้ำเดือด
น้ำต่างหากที่แปรเปลี่ยนไป . . ."
พร้อมกันนี้ พ่อยังถามลูกสาวว่า
แล้วลูกล่ะเมื่อความทุกข์มาเยือน ลูกจะเตรียมรับมืออย่างไร
ลูกจะเป็นแครอท ไข่ หรือ กาแฟ"?
แต่เมื่อต้องเผชิญกับความทุกข์ยากนานาก็จะเฉา อ่อนแอ
และสูญเสียเรี่ยวแรง และกำลังไป
แต่หลังจากที่ต้องเผชิญกับความเป็นความตาย การแตกแยก การหย่าร้าง
หรือการเลย์ออฟ . .แม้เปลือกภายนอกยังคงเดิม แต่หัวใจ
และจิตวิญญาณของอาจปวดร้าว และแข็งแกร่งขึ้นก็เป็นไปได้
หรือหากคุณเหมือน "กาแฟ"
เมื่อเจอน้ำเดือดอันนำมาซึ่งความเจ็บปวด แต่ ณ อุณหภูมิสูงสุด 100
องศาเซลเซียส กาแฟกลับมีรสชาติดีขึ้นยามนั้น หากเป็นดั่งกาแฟ
เมื่อถึงภาวะที่เลวร้ายที่สุด
นอกจากจะสามารถจัดการชีวิตตนเองได้แล้ว
ยังสามารถทำสิ่งรอบข้างให้ดีขึ้นได้ด้วย. .
ขอขอบคุณเนื้อหาดีดี โดย: fwmail
5/09/2551
คำคม
1. คู่ต่อสู้ ศัตรูที่เราแสนเกลียด บางครั้งเราต้องกอดมันไว้ ไม่ใช่เพราะรักก็แค่..หนีบหมัดไว้ ไม่ให้มันต่อยเราถนัดก็เท่านั้นเอง
2. ไม่มีอะไรบังคับให้มนุษย์อ้าปากค้าง ได้นานเท่ากับหมอฟัน
3. ผู้หญิงดีๆ หาง่าย ขึ้นอยู่กับว่าเรามีความดีพอที่จะดึงดูดเขามารึเปล่า
4. ถ้าเราสับสนในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ว่าเราควรจะทำอะไรต่อไป ให้ถามตัวเองว่า...สิ่งที่เราทำอยู่มันทำให้ชีวิตเราดีขึ้นรึเปล่า
5. เมื่อเราโกรธ เกลียดใครสักคนมากๆ ให้บอกตัวเราเองว่า อายุเราสั้นเกินกว่าจะอยู่ด้วยความเกลียดชังนะ
6. ทุกครั้งที่ดูหนังในต่างประเทศ จะรู้สึกเหมือนขาดทุน เพราะเราไม่ได้ยืนถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ และเพลงสรรเสริญพระบารมี
7. วิธีเดียวที่จะแก้แค้นพวกอิจฉาริษยาได้คือ ทำงานดีๆประสบความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไป ไฟอิจฉาจะยิ่งเพิ่มในใจเขา จนก่อสารมะเร็งขึ้นมาฆ่าเขาเอง
8. เอดส์ป้องกันได้ ถ้าไม่ไปตรวจ
9. ประโยชน์ของการอกหัก ทำให้ฟังเพลงเพราะขึ้น ประโยชน์ของความโกรธ ทำให้เคี้ยวมะม่วงได้ละเอียดขึ้น
10. อย่าเชื่อ...ถ้าใครบอกว่าเขาไม่เคยลืมตัว ถ้าคนๆ นั้นยังเคยลืมกินยาหลังอาหาร
11. ชีวิตคู่ คือการยอมรับความเฮงซวยของฝ่ายตรงข้ามให้ได้มากที่สุด
****************************